Wedding Info

บทความแนะนำ

วิธีการเลือกซื้อแหวนแต่งงาน หรือแหวนเพชรที่สาวๆ ทุกคนไม่ควรพลาด

วิธีการเลือกซื้อแหวนแต่งงาน หรือแหวนเพชรที่สาวๆ ทุกคนไม่ควรพลาด

วิธีการเลือกซื้อแหวนแต่งงาน หรือแหวนเพชรที่สาวๆ ทุกคนไม่ควรพลาด

    เชื่อได้เลยว่า แหวนเพชร เป็นสิ่งหนึ่งที่สาว ๆหลายๆคน อยากเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเลือกใส่ตามแฟชั่น เป็นเครื่องประดับติดนิ้วสวยๆ สวมใส่ออกงานหรู และในงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต เช่นในพิธีแต่งงาน ก็จะขาดเครื่องประดับอย่างแหวนเพชรไม่ได้ ดังนั้นสาวๆจึงควรจะมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อแหวนเพชรติดตัวไว้ เผื่อวันหนึ่งมีชายหนุ่มชวนไปเลือกแหวนเพชร เราจะได้เลือกได้อย่างคุ้มค่า และถูกใจที่สุด เพราะแหวนเพชรเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่งที่มีราคาค่อนข้างสูง การเลือกซื้อแหวนเพชรแต่ละครั้งจึงควรมีความรู้ติดตัวไว้บ้าง ไม่งั้นซื้อพลาดไปคงเสียใจกันน่าดูนะคะ ซึ่งวันนี้ Weddingtoknow มีข้อมูลดีๆจากร้านเพชรอนันทาที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการดำเนินธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีมามากกว่า 25 ปี มาให้ข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อแหวนเพชรง่าย ๆ มาฝากค่ะ

1.ตั้งงบประมาณในใจในสำหรับการซื้อแหวนเพชร ก่อนเข้าร้านไปเลือกซื้อแหวนเพชร สาวๆควรมีงบประมาณไว้ในใจก่อนนะคะ เพื่อที่พอเข้าไป พนักงานขายจะได้แนะนำแหวนเพชรในราคาตามที่เราต้องการ ซึ่งขอบอกก่อนว่า ราคาของเพชรจะขึ้นอยู่กับชนิดและรูปแบบของเพชรซึ่งลูกค้าไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหลอกนะคะ เพราะถ้าเราซื้อเพชรที่มีใบรับรองที่ได้มาตรฐาน ราคาที่ได้จะเป็นราคากลางค่ะ 

2.เลือกเพชร (ตัวเม็ดเพชร) การเลือกเพชรมีขั้นตอนที่ยุ่งยากนิดหน่อย แต่จำเป็นอย่างมากที่ต้องเรียนรู้ เพื่อไม่ให้ถูกหลอก โดยขั้นตอนในการเลือกเพชรมีอยู่ 4 ขั้นตอน ดังนี้นะคะ

Carat กะรัต คือหน่วยที่ใช้ชั่งน้ำหนักของเพชร พูดง่าย ๆ คือความใหญ่ของขนาดเพชร ยิ่งเพชรเม็ดใหญ่ก็จะยิ่งมีราคาสูง


?

Cut การเจียระไน แบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก ๆ คือ

 i. รูปทรงของเพชร มีหลายรูปแบบมาก แต่รูปทรงที่ได้รับความนิยมสูงสุด หรือทรงคลาสสิค คือ เพชรทรงกลมเนื่องจากเมื่อเจียระไนออกมาแล้วจะสวยและวิบวับที่สุด และที่สำคัญเพชรทรงกลมจะมีสิ่งที่เรามองได้จากกล้องที่เรียกว่า Hearts and Arrows ที่ครบและสมมาตร เรียกได้ว่าเป็นเพชรที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ii. สัดส่วนของเพชร หลังจากที่ได้รูปทรงของเพชรมาแล้ว เราจะมาดูเรื่องของสัดส่วนในการเจียระไน เพราะเจียระไนมีทั้ง ตื้นไป, ลึกไป, พอดี, หน้ากว้าง, หน้าแคบ ฯลฯ ซึ่งการเจียระไนนี้เป็นส่วนสำคัญในลักษณะการสะท้อนของแสง ที่เราเห็นเพชรระยิบระยับเพราะจุดนี้เอง ตรงนี้คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ดูไม่เป็นก็ไม่แปลก แต่เราสามารถดูได้ง่าย ๆ จากใบเซอร์ GIA ที่จะต้องได้เกรดเป็น excellent ตรง Cut Grade, Polish และ Symmetry ค่ะ ถ้า 3 สิ่งนี้ได้ Excellent เราจะเรียกเพชรเม็ดนั้นว่าเป็นเพชร 3 excellent ซึ่งมีความหมายว่าเจียระไนได้สมบูรณ์แบบนั้นเอง

- เลือกสีของเพชร หรือที่เรียกว่าน้ำเพชร ซึ่งจะมีระดับตั้งแต่ D คือน้ำ 100 ซึ่งเป็นเพชรที่ไร้สี (ราคาสูง) และไล่ระดับไปเรื่อย ๆ ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ E น้ำ 99, F น้ำ 98, G น้ำ 97, H น้ำ 96 ไล่จนถึง Z ซึ่งจะสีออกเหลือง


 

           - เลือกความสะอาด คือตำหนิของเพชรที่เกิดขึ้น ตามธรรมชาติ ภายในไม่สามารถลบออกได้ เพชรที่ไม่มีตำหนิจึงมีราคาสูงกว่า

โดยมีการไล่ระดับความสะอาดของเพชรดังนี้ IF, VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2, I1, I2, I3 (ถ้าสังเกตุตามรูปจะเห็นเป็นจุด หรือขีดในตัวเพชร ที่บ่งบอกถึงความสะอาด)

3.ตรวจสอบเพชร ใบการันตี และใบเซอร์รับรองเพชร การซื้อแหวนเพชรนั้น ควรจะมีใบการันตีและใบเซอร์รับรองเพชรมาพร้อมด้วยทุกครั้ง โดยปกติร้านค้าที่มีมาตรฐานควรมีใบการันตีและใบเซอร์รับรองเพชรทั้ง 2 ใบ ออกให้กับสินค้าทุกชิ้น ส่วนใบรับรองเพชร หรือใบ Certificate เป็นใบที่บอกรายละเอียดของเพชรแต่ละเม็ด ที่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งมีข้อมูลทางเทคนิคอย่างละเอียด ขนาด สี ตำหนิ และการเจียระไน จาก GIA

               การตรวจสอบก็ไม่ยากเพียงใช้กล้องส่องดูที่เม็ดเพชร จะมีสลักตัวเลขบอกอยู่ แล้วนำมาเทียบกับใบเซอร์ เป็นการยืนยันว่าเพชรที่เราส่องอยู่เป็นเม็ดเดียวกับที่ใบเซอร์ระบุ และเป็นเพชรแท้ คุณภาพตามในใบเซอร์ทุกอย่าง

               (GIA เป็นสถาบันการศึกษาทางด้านอัญมณีศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความเชื่อถือ ในระดับมาตรฐานสากล เป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เก่าแก่ที่สุด และ เป็นสถาบันเดียวที่ยิงเลเซอร์เป็นตัวเลขที่เพชร เพื่อให้มีความแม่นยำ และน่าเชื่อถือต่อการตรวจสอบ ระหว่างเพชรกับใบ Certificate โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบได้โดยการส่องกล้องดู ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพื่อยืนยันคุณภาพของเพชรที่ลูกค้าจะได้รับ ซึ่งใบ Certificate จะมีด้วยกัน 2 แบบ คือแบบใบเล็กสำหรับเพชรที่ขนาดน้อยกว่า 1 กะรัต และใบใหญ่สำหรับขนาดมากกว่า 1 กะรัต)

4. การเลือกแหวน เป็นการเลือกแหวนที่จะนำเอาเพชรที่เลือกก่อนหน้านี้เข้าไปประกอบกัน แบ่งได้เป็น 2 เรื่องเวลาเลือกคือ

i.  วัสดุที่ใช้ทำตัวแหวน ซึ่งวัสดุที่นิยมใช้ทำเป็นแหวนเพชร แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน มี 3 ประเภท คือ ทองคำขาว (เป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเพชรไม่มีสี การใช้แหวนที่เป็นสีเงินหรือขาวจะยิ่งทำให้เพชรดูเด่น และไม่สะท้อนแสงออกมาเป็นสีเหลือง เหมือนเพชรไม่สะอาด) ต่อมาคือ ทอง และพิงค์โกลด์ สามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน

 

ii.แบบของแหวน แบบของแหวนมีหลายประเภท เช่น ตัวเรือนชูไม่มีเพชรที่ตัวเรือน ดีไซน์มีเพชรที่ก้าน และดีไซน์เพชรล้อมเม็ดกลาง สามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน หลาย ๆ คนจะกังวลเรื่องของความแข็งแรงของจุดที่แหวนจับตัวเพชร กลัวเพชรหล่นหาย ในความเป็นจริงแล้ว แหวนทุกแบบออกแบบมาให้มีการยึดตัวเพชรอย่างมั่นคงอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องความแข็งแรงเลยค่ะ ให้เลือกแบบที่ชอบเป็นสำคัญได้เลย

5.บริการหลังการขาย เนื่องจากแหวนเพชร หรือแหวนแต่งงานเป็นสิ่งที่ซื้อแล้วจะต้องติดตัวเราไปนานมาก ๆ ดังนั้นการบริการหลังการขาย เช่น การล้างทำความสะอาด ปรับไซส์แหวน ขัดเคลือบ ซ่อมแซม เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น เวลาเลือกซื้อแหวนจึงควรสอบถามข้อมูลไว้ด้วยนะคะ

 

ขอบคุณบทความจาก ร้านเพชรอนันทา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/anantajewelry